Standard Edition
- Ratchet & Clank: Rift Apart
{NUM}
{OVERLINE}
{TITLE}
{PARAGRAPH}
{FEATURE_ICON}
{FEATURE_TITLE}
{FEATURE_DESC}
เกม Ratchet & Clank มีงานภาพที่น่าตื่นตาเสมอ แต่เมื่อความชัดเจนและความหนาแน่นของโลกได้รับการเรนเดอร์ด้วยคอนโซล PS5 ก็จะให้ประสบการณ์ซีเนมาติกระดับภาพยนตร์ และทั้งหมดก็รันในแบบเรียลไทม์
เต็มไปด้วยรายละเอียดและโลกที่หนาแน่นและเต็มไปด้วยจินตนาการ SSD ที่โหลดได้เร็วช่วยให้มีความซับซ้อนและขนาดของโลกที่ไม่สามารถเป็นไปได้ในเกม Ratchet & Clank ภาคก่อนๆ
การก้าวข้ามไปสู่ความละเอียดระดับ 4K และ HDR*1 ก็หมายความว่าสามารถมีรายละเอียดสุดประณีตจำนวนมากได้ การใส่ใจที่จะจำลองคุณสมบัติของวัสดุที่มีอยู่ในโลกจริงๆ ก็หมายถึงโลหะสามารถสะท้อนแสงได้ แอ่งน้ำสามารถสร้างเงาสะท้อนโลกรอบข้างได้อย่างแม่นยำ และพื้นผิวอย่างไม้หรือหินก็มีผิวสัมผัสที่เกือบจะจับต้องได้จริง
เทคโนโลยี Ray-Tracing ล่าสุดให้แสงสะท้อนจากพื้นผิวได้เหมือนกับโลกความจริง ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยโลหะสะท้อนแสงหรือกระจก แสงสะท้อนที่ได้กับการ Ray-Trace นี้จะเพิ่มความลึกและความมีมิติให้กับดาวเคราะห์ทุกดวงที่คุณได้ไปเยี่ยม
*1ไดนามิก 4K และ HDR ต้องใช้โทรทัศน์หรือหน้าจอที่รองรับระบบ 4K และ HDR
Mike Fitzgerald ผู้กำกับ บุคคลหลักด้านเทคโนโลยีที่ Insomniac Games
ด้วย SSD ความเร็วสูงในตัว PS5 โลกทั้งโลกสามารถเปลี่ยนได้ภายในไม่กี่วินาที ช่วยให้ Ratchet และน้องใหม่ Rivet สามารถกระโดดข้ามมิติและเทเลพอร์ตข้ามเวลาได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าจอรอโหลด
นี่เป็นการใช้งานประตูมิติแบบที่ชัดเจนมากที่สุด รอยขาดของมิติในความเป็นจริงสามารถใช้เพื่อเดินทางระยะไกลเพื่อไปถึงตำแหน่งที่ได้เปรียบระหว่างการต่อสู้หรือเดินทางไกลแบบที่ไม่สามารถทำได้ด้วยการเดินเท้า
Ratchet & Clank: Rift Apart ไม่ใช่เป็นเพียงการเดินทางผ่านพื้นที่ทางกายภาพ SSD ช่วยให้คุณสามารถกระโดดไปตามมิติต่างๆ แบบที่ถ้าคุณกระพริบตาก็จะพลาดไป ให้ฮีโร่ของเราได้ไปข้างหน้าและกลับมาเพื่อให้เห็นผลของสิ่งที่การกระทำของพวกเขา (และของ Dr. Nefarious ผู้ชั่วร้าย) มีต่อโลก
เพราะว่า SSD สามารถรับข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างต่อเนื่อง การกระโดดข้ามมิติเหล่านี้จะสร้างการไล่ตามสุดตื่นเต้นและช่วยให้การสำรวจมิติขนาดย่อมที่ซ่อนทรัพยากรที่มีค่าและการปะทะกับศัตรูสุดท้าทายเป็นไปได้
Mike Fitzgerald ผู้กำกับ บุคคลหลักด้านเทคโนโลยีที่ Insomniac Games
การผจญภัยข้ามโลกสมควรมีทัศนียภาพของเสียงที่ยิ่งใหญ่พอกัน Tempest 3D AudioTech ของ PS5 ให้คุณได้ใช้หูฟังที่รองรับและดื่มด่ำไปกับสภาพแวดล้อมอันเขียวชอุ่มของเกมหรือให้มีการรับรู้สถานการณ์ที่ดีขึ้นในการต่อสู้
ด้วยความสามารถที่จะระบุเป้าหมายศัตรูด้วยเสียงคำรามและเสียงยิงอาวุธ ภัยอันตรายจากนอกหน้าจอก็ไม่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงอีกต่อไป การรู้ว่าศัตรูเข้ามาทางด้านหลังก็ทำให้การต่อสู้เป็นการชิงตำแหน่งแบบ 360 องศาของจริง ให้ Ratchet และ Rivet ได้เลือกเป้าหมายตามระยะของพวกมัน
เมืองเต็มไปด้วยถนนที่คึกคัก คนขายของเสนอขายสินค้าของเขา และพาหนะต่างวิ่งผ่านไปบนอากาศ รายละเอียดสภาพแวดล้อมก็สำคัญกว่าที่เคย แม้ว่าคุณจะไม่รู้ว่าจะเกิดการต่อสู้เมื่อไร โลกเอเลี่ยนเหล่านั้นก็เป็นอาหารหูสำหรับคุณเหมือนกับช่วงที่คุณต่อสู้
Daniel Birczynski ผู้นำด้านเสียงที่ Insomniac Games
ทริกเกอร์แบบปรับเปลี่ยนได้คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ ช่วยถ่ายทอดระดับการสัมผัสแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนคอนโซล PlayStation ซีรีส์ Ratchet & Clank มีอาวุธที่เป็นเอกลักษณ์เสมอ แต่ตอนนี้อาวุธแต่ละชิ้นก็รู้สึกแตกต่างกัน
การตอบสนองการสัมผัสที่ก้าวล้ำช่วยให้ทุกๆ เสียงซ่า เสียงสั่น เสียงคลิก และระเบิดสั่นอยู่ในมือของคุณ ไม่เพียงแค่เอฟเฟกต์ที่ใหญ่หรือรุนแรงเท่านั้น แต่การฮัมเล็กๆ หรือการสั่นเล็กน้อยด้วย
ช่วยให้คุณสามารถรู้สึกถึงอาวุธเมื่อมันชาร์จจนเต็มได้ หรือระเบิดเวลาใกล้จะถึงเวลาระเบิดอยู่ใกล้ตัวคุณ ช่วยให้คุณสามารถไปสู่ที่ปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องมีอะไรแสดงบนหน้าจอ
ทริกเกอร์แบบปรับเปลี่ยนได้ของคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ ยังสามารถทำให้การกระทำง่ายๆ อย่างการยิงอาวุธมีเอกลักษณ์ได้ ปรับเปลี่ยนแรงต้านของทริกเกอร์เพื่อแสดงให้เห็นถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือให้มีการโจมตีหลากหลายแบบด้วยปุ่มๆ เดียว การกดทริกเกอร์ลงแค่ครึ่งเดียวสามารถยิงโดยใช้ปากกระบอกเดียวได้ ขณะที่ปล่อยปุ่มแบบเต็มที่สามารถยิงได้ทั้งสองกระบอกพร้อมกัน และด้วยแรงต้านที่สมบูรณ์แบบ คุณจะรู้ได้ว่าคุณใช้การโจมตีแบบไหนไป
Mike Daly ผู้กำกับเกมที่ Insomniac Games
* ข้อมูลข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
* เกม/เนื้อหานี้อาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางภูมิภาคและในบางภาษา
ป้อนวันเกิดของคุณ
