ความช่วยเหลือของ PlayStation

เกม

คุณต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด

เลือกหมวดหมู่จากด้านล่าง:

กลับไปที่หมวดหมู่
ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเกม
ย้อนกลับ

ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเกม

คำถามทั่วไปเกี่ยวกับเกม

ในการอัพเกรดเกม PlayStation®4 ที่ตรงตามคุณสมบัติในรูปแบบแผ่นดิสก์ให้เป็นเกม PlayStation®5 เวอร์ชันดิจิทัล คุณจะต้องมีคอนโซล PS5® ที่มีดิสก์ไดรฟ์ เกม PS4™ ในรูปแบบแผ่นดิสก์ไม่สามารถใช้ร่วมกับ PS5 รุ่นดิจิทัลได้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บนคอนโซล PS5 ของคุณ (หรือสร้างบัญชี)
  2. ใส่ดิสก์เกม PS4 ที่ตรงตามคุณสมบัติ
  3. ไปที่ฮับเกมสำหรับเกม PS4
  4. เลือกข้อเสนอในการอัพเกรดบนฮับเกมและตรวจสอบข้อเสนอดังกล่าว
  5. เลือก ดาวน์โหลด (หรือซื้อในราคาที่มีส่วนลด) เพื่อดาวน์โหลด/ซื้อเนื้อหา
  6. หลังจากดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเล่นเกม PS5 ในรูปแบบดิจิทัลได้โดยการใส่แผ่นดิสก์เกม PS4 คุณจะต้องใส่แผ่นดิสก์ไว้ตลอดทุกครั้งเพื่อเล่นเกม

ในการอัพเกรดเกม PS4 ที่ตรงตามคุณสมบัติในรูปแบบดิจิทัลที่คุณมีอยู่เป็น PS5 เวอร์ชันดิจิทัล ให้คุณ:

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่คุณมีอยู่บนคอนโซล PS5
  2. ค้นหาเกม PS5 ใน PlayStation™Store หรือเลือก ค้นหา แล้วไปที่ฮับเกมเพื่อค้นหาเกม PS5
  3. เลือกข้อเสนอในการอัพเกรดบนฮับเกมและตรวจสอบข้อเสนอดังกล่าว
  4. เลือก ดาวน์โหลด (หรือซื้อในราคาที่มีส่วนลด) เพื่อดาวน์โหลด/ซื้อเนื้อหา
  5. หลังจากดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเล่นเกม PS5 ได้

หมายเหตุ: เกม PS4 ที่แลกรับเป็นสิทธิประโยชน์ของ PlayStation®Plus จะไม่มีสิทธิ์ในการอัพเกรดเป็นเกม PS5 นอกจากจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

  1. จาก หน้าหลักเกม ให้ไปที่ ห้องสมุดเกม 
  2. เลือกเกมและกด X
  3. เลือกปุ่ม ... บนหน้าจอเพื่อดูตัวเลือก
  4. เลือกเวอร์ชันของเกมที่คุณต้องการดาวน์โหลดหรือเล่น

คอนโซล PS5 เข้ากันได้ย้อนหลังกับเกม PS4 เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าคอลเลกชันเกม PS4 สุดเจ๋งหลายพันเกมสามารถเล่นได้บนคอนโซล PS5

  • คอนโซล PS5 ไม่รองรับแผ่นดิสก์ PlayStation®3 หากคุณมีเกม PS4 ในรูปแบบดิจิทัลผ่านโปรแกรมอัพเกรดเกม PS3 เป็นเกม PS4 เวอร์ชันดิจิทัล (ดังนั้นจึงต้องใช้แผ่นดิสก์ PS3 ในการเล่น) คุณจะไม่สามารถเล่นเกม PS4 เวอร์ชันดิจิทัลนั้นบนคอนโซล PS5 ของคุณได้
  • ไม่สามารถแสดงเมนู SHARE ได้ในระหว่างเกมเพลย์ของ PS4 บนคอนโซล PS5 คุณสามารถถ่ายภาพหน้าจอและรูปโดยกดปุ่มครีเอทบนคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense เพื่อแสดงเมนูครีเอท สำหรับเกม PS4 บางเกม แม้ว่าคุณจะเริ่มบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียด 3840 x 2160 แต่ก็อาจยังเป็นการบันทึกที่ความละเอียด 1920 x 1080
  • กล้อง HD เข้ากันไม่ได้กับ PS VR บนคอนโซล PS5 คุณจะต้องใช้ PlayStation®Camera (สำหรับ PS4) และอะแดปเตอร์ PS Camera (ไม่จำเป็นต้องซื้อ) เพื่อใช้ PS VR บนคอนโซล PS5
  • HDR จะเปิดโดยอัตโนมัติสำหรับคอนโซล PS5 หากต้องการปิด HDR ให้ไปที่ การตั้งค่า หน้าจอและวิดีโอ > วิดีโอเอาต์พุต > HDR และเลือก ปิด
  • คุณสมบัติการแข่งขันบน PS4 ไม่รองรับบนคอนโซล PS5 หากต้องการเข้าร่วมการแข่งขันสำหรับเกม PS4 โปรดใช้คอนโซล PS4 ของคุณต่อไป
  • คอนโซล PS5 ไม่รองรับ Live จาก PlayStation ภายในเกม 
  • คอนโซล PS5 ไม่รองรับแอป PS4 Second Screen หรือแอป Companion ของเกม

คุณสามารถรับถ้วยรางวัลได้โดยการบรรลุวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การเคลียร์เกมระดับต่างๆ ค้นหาของสะสม หรือทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละเกม

วิดีโอความช่วยเหลือ: เคล็ดลับสำหรับเกมที่ถูกล็อคของ PS5

การจัดการเกมและเนื้อหา

วิดีโอความช่วยเหลือ: วิธีดาวน์โหลดและลบเกมบน PS5
วิดีโอความช่วยเหลือ: กำลังดาวน์โหลดเกม PS4

เมื่อคุณซื้อเกม คุณจะสามารถเลือกที่จะเริ่มต้นการดาวน์โหลดแบบระยะไกลผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือ PlayStation App ได้ ในการเริ่มการดาวน์โหลดแบบระยะไกล คุณต้องตั้งค่าการดาวน์โหลดอัตโนมัติสำหรับคอนโซลของคุณ

ดูวิธีแก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับส่วนเสริม เนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้ (DLC) และสกุลเงินในเกม

เมื่อคุณเริ่มเกมหรือแอป เกมจะอัพเดทเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดโดยอัตโนมัติ

เลือกภาพขนาดย่อของเกมจากหน้าหลักเกมของคุณและกดปุ่มตัวเลือกเพื่อแสดงเมนูตัวเลือก

  1. เลือก ตรวจสอบการอัพเดท
  2. หากมีการอัพเดท ให้ทำตามคำแนะนำเพื่อติดตั้งการอัพเดท

คุณยังจะใช้เมนูนี้เพื่อจัดการข้อมูลที่บันทึกไว้ ข้อมูลเกม และส่วนเสริมได้

  1. ไปที่ห้องสมุดและเลือกเกมที่คุณต้องการอัพเดท กดปุ่มตัวเลือกและเลือก ตรวจสอบการอัพเดท
  2. หากมีการอัพเดท ให้ทำตามคำแนะนำเพื่อติดตั้งการอัพเดท

เกมและข้อมูลที่บันทึกไว้ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ จะถูกจัดเก็บอยู่ในที่จัดเก็บในตัวบนคอนโซล PS5 ของคุณ หากที่จัดเก็บของคอนโซลไม่มีพื้นที่ว่าง คุณสามารถ ลบข้อมูลที่มีอยู่แล้วที่นี่ หรือคัดลอกข้อมูลไปยังพื้นที่จัดเก็บใดต่อไปนี้:

  • ที่จัดเก็บเสริมแบบ USB
  • ที่จัดเก็บ SSD M.2
  • ที่จัดเก็บระบบคลาวด์
  • ไดรฟ์ USB

คอนโซล PS5 ของคุณจะตรวจดูว่าเกม เนื้อหาสื่อ และข้อมูลที่บันทึกไว้ของคุณใช้พื้นที่เท่าไรบนพื้นที่จัดเก็บ ในการตรวจสอบว่าคุณมีพื้นที่ว่างในที่จัดเก็บเท่าใด ให้ไปยังหน้าจอหลักแล้วเลือก การตั้งค่า > ที่จัดเก็บ

หากต้องการจัดการที่จัดเก็บของคอนโซล PS4 ของคุณ ให้ไปที่ การตั้งค่า > การจัดการข้อมูลที่บันทึกไว้ของแอปพลิเคชัน

หากคุณต้องการเข้าถึงข้อมูลการบันทึกบนที่จัดเก็บออนไลน์ PlayStation Plus ของแอปพลิเคชันจากตัวเปิดเนื้อหาหรือ ห้องสมุด ให้เลื่อนไปที่แอปพลิเคชันนั้นๆ กดปุ่ม OPTIONS แล้วเลือก อัพโหลด/ดาวน์โหลดข้อมูลที่บันทึกไว้

เกมที่คุณซ่อนจะถูกซ่อนจาก ห้องสมุด ของคุณบนคอนโซลทั้งหมด การตั้งค่านี้ไม่มีผลต่อโพรไฟล์ของคุณ คุณสามารถซ่อนหรือยกเลิกการซ่อนเกมของคุณได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

  1. จาก ห้องสมุดเกม ให้เปิดแถบ คอลเลกชันของคุณ แล้วเลือกเกมที่คุณต้องการซ่อน
  2. กดปุ่ม OPTIONS จากนั้นเลือก ซ่อน หรือ ซ่อนรายการทั้งหมด
  1. ไปที่ ห้องสมุด ซื้อแล้ว และเลือกเกม
  2. กดปุ่มตัวเลือกและเลือก อย่าแสดงรายการเนื้อหา ใน [ซื้อแล้ว]

เกมบางเกมมีการแบ่งข้อมูลแยกกันระหว่างแผ่นดิสก์สองแผ่นเพื่อให้สามารถจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ได้

  1. ใส่ดิสก์ข้อมูลเข้าไปในช่องใส่ดิสก์
  2. เมื่อการแจ้งปรากฏ ให้ถอดดิสก์ข้อมูลออกแล้วใส่ดิสก์สำหรับเล่น
    การติดตั้งจะเสร็จสิ้นโดยอัตโนมัติเมื่อใช้ดิสก์สำหรับเล่น
  3. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ให้ใส่ดิสก์สำหรับเล่นไว้ในคอนโซลเพื่อเล่นเกม

ความช่วยเหลือสำหรับบางเกม

ฉันจะเข้าถึงเนื้อหาโบนัสได้อย่างไร 

เกมแบบแผ่นดิสก์จะมีบัตรกำนัลพร้อมรหัส ซึ่งคุณสามารถใช้แลกรับที่ PlayStation Store เพื่อเข้าถึงเนื้อหาโบนัสของคุณ หากคุณซื้อ Horizon Forbidden West เวอร์ชันดิจิทัล เนื้อหาโบนัสจะรวมอยู่ด้วยเมื่อคุณดาวน์โหลดเกม โปรดตรวจสอบรหัสบนใบเสร็จ (ฉบับจริงหรือดิจิทัล) จากผู้ค้าปลีกของคุณ

ฉันสามารถเล่น Horizon Forbidden West บนแพลตฟอร์มใดได้บ้าง 

เกม Horizon Forbidden West จะมีให้บริการบนคอนโซล PS4 และคอนโซล PS5

ภาษาอะไรที่เกม Horizon Forbidden West มีพร้อมให้บริการ 

เสียงพากย์ (จากนักพากย์ท้องถิ่น): อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมัน, สเปน, โปแลนด์, โปรตุเกส, รัสเซีย, อาหรับ, ญี่ปุ่น, สเปนละตินอเมริกา, โปรตุเกสบราซิล

คำบรรยาย: อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมัน, สเปน, โปแลนด์, โปรตุเกส, รัสเซีย, อาหรับ, ญี่ปุ่น, สเปนละตินอเมริกา, โปรตุเกสบราซิล, ดัตช์, เดนมาร์ก, นอร์เวย์, ฟินแลนด์, สวีเดน, ฮังการี, เช็ก, ตุรกี, กรีก, จีนตัวย่อ, จีนดั้งเดิม, ไทย, และเกาหลี

วิธีเข้าถึงโบนัสการสั่งซื้อล่วงหน้าของก็อดออฟวอร์ แร็กนาร็อก 

โบนัสการสั่งซื้อล่วงหน้า/เนื้อหา DLC ทั้งหมดจะปลดล็อคเมื่อคุณเล่นเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ คุณจะต้องไปถึงร้านค้าแรกภายในเกมเพื่อรับสิ่งของต่างๆ ในเกม

ฉันสามารถเล่นเวอร์ชัน PS4 ของฉันบนคอนโซล PS5 ได้หรือไม่

ได้ คุณสามารถเล่น Gran Turismo 7 เวอร์ชัน PS4 บนคอนโซล PS5 ได้

ฉันต้องใช้ฮาร์ดแวร์อะไรในการเล่น Horizon Call of the Mountain 

คุณต้องมีคอนโซล PS5, PlayStation®VR2 รวมถึงคอนโทรลเลอร์ PlayStation®VR2 Sense เพื่อเล่น Horizon Call of the Mountain

Helldivers 2 สามารถเล่นแบบออนไลน์หรือผู้เล่นหลายคนได้หรือไม่

Helldivers 2 จำเป็นต้องเล่นแบบออนไลน์ คุณสามารถเล่นกับผู้เล่นออนไลน์ได้สูงสุด 4 คนด้วย PlayStation Plus

Stellar Blade สามารถเล่นแบบออนไลน์หรือผู้เล่นหลายคนได้หรือไม่

Stellar Blade เป็นเกมผู้เล่นคนเดียว

ฉันจะหารายการสั่งซื้อล่วงหน้าของฉันได้ที่ไหน

โบนัสสั่งซื้อล่วงหน้าสามารถรับได้ที่เซฟเฮาส์ของอดัมเมื่อไปถึงไซโยน ซึ่งสามารถไปถึงหลังจากเล่นเกมได้ประมาณ 90 นาที

ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Edition ต่างๆ ของ Ghost of Tsushima™ Director's Cut สำหรับ PC ภาษาที่เกมรองรับ และวิธีเข้าใช้งานโบนัสการสั่งซื้อล่วงหน้าของคุณ

เกม PlayStation บน PC

สำหรับเกม PlayStation สำหรับ PC บางเกม คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้ PlayStation™Network และเข้าถึงเนื้อหาโบนัสได้

กลับไปที่หมวดหมู่
สร้างและเข้าร่วมปาร์ตี้
ย้อนกลับ

สร้างและเข้าร่วมปาร์ตี้

ปาร์ตี้และแชทผ่านเสียง

สนทนากับผู้เล่นแบบเรียลไทม์ได้ด้วยการแชทผ่านเสียงภายในปาร์ตี้ 

  1. กดปุ่ม PS เพื่อเปิดศูนย์ควบคุม จากนั้นเลือก Game Base
  2. ไปที่แถบ ปาร์ตี้ และเลือก เริ่มปาร์ตี้ เลือก ปาร์ตี้แบบเปิด หรือ ปาร์ตี้แบบปิด
  3. ทำตามคำแนะนำต่างๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ เมื่อคุณเลือกเสร็จสิ้น ปาร์ตี้จะเริ่มต้นขึ้น คุณสามารถจัดการสิ่งนี้ได้จากการ์ดแชทผ่านเสียงในศูนย์ควบคุม
  1. กดปุ่ม PS เพื่อเปิดศูนย์ควบคุมและเลือก Game Base
  2. ไปที่แถบ ปาร์ตี้ 
    ปาร์ตี้ที่คุณสามารถเข้าร่วมได้จะแสดงอยู่ในส่วน เข้าร่วมได้
  3. เลือกปาร์ตี้ที่คุณต้องการเข้าร่วม
    จะแสดงให้เห็นผู้เล่นที่อยู่ในปาร์ตี้อยู่แล้ว
  4. เลือก เข้าร่วม
    คุณได้เข้าร่วมปาร์ตี้ คุณสามารถจัดการปาร์ตี้ได้จากการ์ดแชทผ่านเสียงในศูนย์ควบคุม

การตั้งค่านี้มีผลเฉพาะกับเสียงแชทในเกมเท่านั้น คุณยังจะค้นหาการตั้งค่านี้ได้ใน การตั้งค่าการแชทผ่านเสียง ใน Game Base

  1. กดปุ่ม PS เพื่อเปิดศูนย์ควบคุม จากนั้นเลือก เสียง 
  2. เลือก ปิดใช้งานเสียงแชทในเกม

หากต้องการใช้ Discord บนคอนโซล PS5 คุณจะต้องเชื่อมโยงบัญชี Discord ของคุณเข้ากับบัญชี PSN ของคุณ เชื่อมโยงบัญชี Discord ของคุณกับ PSN

  1. เปิดแอป Discord บนอุปกรณ์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นเข้าสู่บัญชี Discord ของคุณแล้วเริ่มหรือเข้าร่วมห้องแชทเสียง
  2. เลือกตัวเลือกการเข้าร่วมบน PlayStation จากนั้นเลือกคอนโซล PS5 ของคุณ* จากรายการที่ปรากฏ
    เมื่อคอนโซล PS5 ของคุณเชื่อมต่อกับห้องแชทเสียงสำเร็จแล้ว จะมีการแจ้งปรากฏบนหน้าจอคอนโซล PS5 ของคุณ
  3. เลือก ดูการแชทผ่านเสียงใน Discord จากการแจ้งบนหน้าจอคอนโซล PS5 ของคุณเพื่อเปิดการ์ดแชทผ่านเสียงด้วย Discord

สนทนากับผู้เล่นแบบเรียลไทม์ได้ด้วยการแชทผ่านเสียงภายในปาร์ตี้ 

  1. จากหน้าจอหลัก ให้กดปุ่มขึ้นบนคอนโทรลเลอร์เพื่อเข้าถึงหน้าฟังก์ชัน เลือก ปาร์ตี้ > เริ่มปาร์ตี้ 
  2. เลือก ปาร์ตี้แบบเปิด หรือ ปาร์ตี้แบบปิด ทำตามคำแนะนำต่างๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ เมื่อคุณเลือกเสร็จสิ้น ปาร์ตี้จะเริ่มต้นขึ้น
  1. จากหน้าจอหลัก ให้กดปุ่มขึ้นบนคอนโทรลเลอร์เพื่อเข้าถึงหน้าฟังก์ชัน 
  2. เลือก ปาร์ตี้ 
  3. จากรายการ ให้เลือกปาร์ตี้ที่คุณต้องการเข้าร่วม
วิดีโอความช่วยเหลือ: เชิญเพื่อนให้เข้าร่วมการแชทของปาร์ตี้หรือแชทผ่านเสียง

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปาร์ตี้

หากคุณขาดการเชื่อมต่อ หรือไอคอนไมโครโฟนกะพริบขณะอยู่ในแชทผ่านเสียงของปาร์ตี้ โปรดลองทำดังนี้:

  1. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ หากเป็นไปได้ ให้ใช้การเชื่อมต่อแบบใช้สาย 
  2. ปิดคอนโซลของคุณและอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตของคุณ (โมเด็มและเราเตอร์) รอ 5 นาที แล้วจึงเปิดอีกครั้ง หากคุณใช้เราเตอร์ โปรดลองเปิดพอร์ต 
  3. ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณเกี่ยวกับวิธีเปิดพอร์ตต่อไปนี้บนเราเตอร์ของคุณ: 
  • TCP: 80, 443, 3478, 3479, 3480
  • UDP: 3478, 3479

เปลี่ยนอุปกรณ์ส่งข้อมูลออก

  1. ไปที่ การตั้งค่า เสียง เสียงออก และเลือก อุปกรณ์ส่งข้อมูลออก  และเลือกอุปกรณ์ส่งข้อมูลเสียงออกที่จะใช้งาน
  2. คุณยังสามารถปรับเสียงที่คุณได้ยินผ่านหูฟังโดยเลือก ส่งสัญญาณไปยังหูฟัง

เปลี่ยนอุปกรณ์ส่งข้อมูลออก

  1. ไปที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์ > อุปกรณ์เสียง > อุปกรณ์ส่งข้อมูลออก
  2. หากคุณใช้หูฟัง ให้เลือก ส่งสัญญาณไปยังหูฟัง เพื่อเลือกเสียงที่จะส่งไปยังหูฟัง
  • การตั้งค่า ชุดหูฟังที่เชื่อมต่อกับคอนโทรลเลอร์ จะแสดงก็ต่อเมื่อชุดหูฟังเชื่อมต่อกับคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DUALSHOCK®4 ของคุณ
  • เนื่องจากข้อมูลจำเพาะของคอนโซล PS4, แชทผ่านเสียง และเสียงของเกมไม่สามารถเอาต์พุตไปยังทั้งชุดหูฟังและทีวีได้
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไมโครโฟนของชุดหูฟังเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางไร้สายไม่ได้ถูกปิดเสียง เมื่อปิดเสียง ไฟสถานะชุดหูฟังเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางไร้สายจะเป็นสีม่วง ตำแหน่งของไฟ/ปุ่มอาจแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์
  • โปรดไปที่คำแนะนำด้านล่างเพื่อปรับสมดุลความดังเสียงสำหรับชุดหูฟังไร้สาย PlayStation ของคุณ
กลับไปที่หมวดหมู่
การเล่นระยะไกล
ย้อนกลับ

การเล่นระยะไกล

การใช้การเล่นระยะไกลบนอุปกรณ์ของคุณ

วิดีโอความช่วยเหลือ: การเล่นระยะไกลโดยใช้คอนโซล PS5
วิดีโอความช่วยเหลือ: การเล่นระยะไกลโดยใช้คอนโซล PS4

คุณจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้เพื่อใช้ PS Remote Play:

  • สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Android™, iPhone หรือ iPad
    สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับความต้องการของระบบให้ไปที่ Google Play™ หรือ App Store
  • คอนโซล PS5® หรือคอนโซล PS4™
    อัพเดทคอนโซลของคุณให้เป็นซอฟต์แวร์ระบบเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
  • บัญชีผู้ใช้สำหรับ PlayStation™Network
    ใช้บัญชีผู้ใช้เดียวกับที่คุณใช้สำหรับคอนโซลของคุณ หากคุณไม่มีบัญชีคุณจะต้องสร้างบัญชีก่อน
  • การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
    ตามมาตรฐานเราขอแนะนำการเชื่อมต่อความเร็วสูงที่มีความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 5 Mbps เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดเราขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อความเร็วสูงที่มีความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 15 Mbps
  • คุณสามารถเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ หรือคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DUALSHOCK®4 เข้ากับอุปกรณ์มือถือที่รองรับเพื่อใช้กับ PS Remote Play 
  • เมื่อต้องการใช้การแชทผ่านเสียง คุณจะต้องมีไมโครโฟน เช่น ไมโครโฟนในตัวบนอุปกรณ์มือถือของคุณ
  • การเล่นระยะไกลจะใช้ข้อมูลในปริมาณที่มากกว่าบริการสตรีมวิดีโอส่วนใหญ่ หากคุณใช้การเล่นระยะไกลด้วยอินเทอร์เน็ตมือถือ โปรดระวังอย่าใช้อินเทอร์เน็ตเกินขีดจำกัดหรืออย่าให้โทรศัพท์มือถือมีค่าใช้จ่ายในจำนวนที่สูงเกินไป

คุณจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 จากอุปกรณ์มือถือของคุณ

  1. เปิดคอนโซลของคุณหรือตั้งค่าให้อยู่ในโหมดพัก 
  2. เปิด PS Remote Play ในอุปกรณ์มือถือของคุณ จากนั้นเลือก ลงชื่อเข้าใช้ PSN
    ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีเดียวกับที่คุณใช้สำหรับคอนโซลของคุณ 
  3. เลือก PS5 หรือ PS4
    แอปจะค้นหาคอนโซลที่คุณได้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีของคุณ จากนั้นจะเชื่อมต่อกับคอนโซลโดยอัตโนมัติ หลังจากเชื่อมต่อแล้วหน้าจอคอนโซลของคุณจะแสดงบนอุปกรณ์มือถือและคุณสามารถเริ่มใช้ PS Remote Play ได้ หากพบหลายคอนโซลให้เลือกคอนโซลที่คุณต้องการใช้ 

ตั้งแต่ครั้งที่สองเป็นต้นไปคุณจะสามารถเลือกคอนโซลที่คุณเชื่อมต่อก่อนหน้านี้ได้

  • อุปกรณ์มือถือของคุณจะไม่สามารถค้นหาและเชื่อมต่อกับคอนโซลของคุณได้หากคุณลงชื่อเข้าใช้ครั้งล่าสุดผ่านมาแล้วสักระยะหนึ่ง ก่อนที่จะลองเชื่อมต่อระยะไกลจากนอกบ้าน ให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออย่างถูกต้องขณะที่คุณอยู่ใกล้กับคอนโซล
  • ในระหว่างการเล่นระยะไกล คุณอาจเห็น "เชื่อมต่อกับการเล่นระยะไกลแล้ว" ที่ด้านบนของหน้าจอ ข้อความนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อมีผู้ใช้รายอื่นเข้าสู่ระบบคอนโซล PS5 ของคุณในขณะที่คุณใช้การเล่นระยะไกล เมื่อผู้ใช้รายนั้นออกจากระบบคอนโซล PS5 ของคุณ ข้อความดังกล่าวจะหายไป

คุณสามารถควบคุมคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 จาก PC หรือ Mac ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายความเร็วสูงได้โดยใช้แอป PS Remote Play ตรวจสอบว่า PC หรือ Mac ของคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด จากนั้นทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อตั้งค่าการเล่นระยะไกล

คุณจำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์ Windows หรือ Mac และคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 เพื่อใช้ในการควบคุม นี่คือรายละเอียดข้อกำหนด:

Windows

  • ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 (32 บิต หรือ 64 บิต) หรือ Windows 11
  • โปรเซสเซอร์: โปรเซสเซอร์ 7th Generation Intel® Core™ หรือใหม่กว่า 
  • พื้นที่จัดเก็บและบันทึก: 100 MB ขึ้นไป 
  • RAM: 2 GB ขึ้นไป 
  • ความละเอียดจอแสดงผล: 1024 × 768 หรือสูงกว่า 
  • การ์ดเสียง: จำเป็น 
  • พอร์ต USB: จำเป็น

Mac

  • ระบบปฏิบัติการ: macOS Big Sur, macOS Monterey
    macOS Ventura
  • พื้นที่จัดเก็บ: 40 MB ขึ้นไป 
  • RAM: 2 GB ขึ้นไป

คอนโทรลเลอร์

  • คุณสามารถใช้คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ , คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edge™ หรือคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DUALSHOCK®4 สำหรับการเล่นระยะไกล 
  • หากต้องการใช้การแชทผ่านเสียง คุณจำเป็นต้องมีไมโครโฟน เช่น ไมโครโฟนในตัวของ Windows PC หรือ Mac ของคุณ

คอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4

  • ซอฟต์แวร์ระบบล่าสุด
    อัพเดตซอฟต์แวร์ระบบคอนโซลของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
  • บัญชีผู้ใช้สำหรับ PlayStation™Network
    ใช้บัญชีผู้ใช้เดียวกับที่คุณใช้สำหรับคอนโซลของคุณ หากคุณไม่มีบัญชีผู้ใช้คุณจะต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อน
  • การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
    ตามมาตรฐานเราขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 5 Mbps เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เราขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อความเร็วสูงที่มีความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 15 Mbps

คุณจะต้องทำสิ่งนี้ในครั้งแรกที่คุณใช้การเล่นระยะไกลเท่านั้น: 

  1. จากหน้าจอหลัก ให้เลือก การตั้งค่า ระบบ การเล่นระยะไกล จากนั้นเลือก เปิดใช้การเล่นระยะไกล 
  2. ในการเริ่มใช้งานการเล่นระยะไกลขณะที่คอนโซล PS5 ของคุณอยู่ในโหมดพักให้เลือก การตั้งค่า ระบบ การประหยัดพลังงาน คุณสมบัติที่พร้อมใช้งานในโหมดพัก จากนั้นเลือกทำเครื่องหมายที่ช่อง คงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตไว้ และ เปิดใช้งานการเปิดเครื่อง PS5 จากเครือข่าย

คุณจะต้องทำสิ่งนี้ในครั้งแรกที่คุณใช้การเล่นระยะไกลเท่านั้น: 

  1. จากหน้าจอฟังก์ชันให้ไปที่ การตั้งค่า การตั้งค่าการเชื่อมต่อการเล่นระยะไกล จากนั้น เปิดใช้งานการเล่นระยะไกล 
  2. จากหน้าจอฟังก์ชัน ให้ไปที่ การตั้งค่า การจัดการบัญชี > เปิดใช้งาน PS4 หลักของคุณ จากนั้นเลือก เปิดใช้งาน คุณสามารถเปิดการใช้งานการตั้งค่านี้ได้บนคอนโซล PS4 เพียงหนึ่งเครื่องสำหรับแต่ละบัญชีเท่านั้น 
  3. ในการเริ่มใช้งานการเล่นระยะไกลขณะที่คอนโซล PS4 ของคุณอยู่ในโหมดพักให้เลือก การตั้งค่า การตั้งค่าประหยัดพลังงาน ตั้งคุณสมบัติให้พร้อมใช้งานในโหมดพัก จากนั้นเปิดใช้งาน คงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตไว้ และ เปิดใช้งานการเปิดเครื่อง PS4 จากเครือข่าย

คุณจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 จาก PC หรือ Mac ของคุณ

  1. เปิดคอนโซลของคุณหรือตั้งค่าให้อยู่ในโหมดพัก 
  2. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์กับ PC หรือ Mac ของคุณ 
  3. เปิดแอป PS Remote Play บน PC หรือ Mac ของคุณ จากนั้นเลือก ลงชื่อเข้าใช้ PSN
    ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีผู้ใช้เดียวกับที่คุณใช้สำหรับคอนโซลของคุณ 
  4. เมื่อคุณเลือก การตั้งค่า คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุณภาพวิดีโอสำหรับการเล่นระยะไกล เช่น ความละเอียดและอัตราเฟรม 
  5. เลือก PS5 หรือ PS4
    แอปจะค้นหาคอนโซล PS5 หรือ PS4 ที่คุณลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ใช้ของคุณแล้วเชื่อมต่อกับคอนโซลโดยอัตโนมัติ หลังจากที่แอปเชื่อมต่อแล้ว หน้าจอของคอนโซลจะแสดงบน PC หรือ Mac ของคุณ และคุณจะสามารถเริ่มใช้การเล่นระยะไกลได้ หากพบหลายคอนโซลให้เลือกคอนโซลที่คุณต้องการใช้ 

ตั้งแต่ครั้งที่สองเป็นต้นไปคุณจะสามารถเลือกคอนโซลที่คุณเชื่อมต่อก่อนหน้านี้ได้ 

หากคอนโซลของคุณไม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยอัตโนมัติ คุณจะถูกขอให้ ลงทะเบียนคอนโซลบน PC หรือ Mac ของคุณด้วยตนเอง

เรียนรู้วิธีเชื่อมต่อ PlayStation®Vita เข้ากับคอนโซล PS4 ของคุณเพื่อการใช้ PS Remote Play และการเล่นบนหน้าจอที่สอง

การแก้ไขปัญหาการการเล่นระยะไกล

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า:

  • คอนโซลของคุณเปิดอยู่หรืออยู่ในโหมดพัก
  • เปิดใช้ Remote Play แล้ว
  • ซอฟต์แวร์ระบบเป็นรุ่นล่าสุดแล้ว

ดูวิธีเปิดใช้การเล่นระยะไกลบนคอนโซล PlayStation®5 หรือคอนโซล PlayStation®4 และเปลี่ยนการตั้งค่าการเล่นระยะไกล

ความเร็วขั้นต่ำในการเชื่อมต่อสำหรับการเล่นระยะไกลคือ 5 Mbps สำหรับทั้งการอัพโหลดและการดาวน์โหลด ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อของคุณตรงตามข้อกำหนดเหล่านี้

ไม่สามารถใช้การเล่นระยะไกลได้เมื่อ:

  • ทำการออกอากาศ (หรือการสตรีม) จากคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ของคุณ
  • เปิดเกมที่ไม่รองรับการเล่นระยะไกล
  • เปิด Media App และเครื่องเล่นแผ่นดิสก์

ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชัน PS Remote Play โดยใช้คำแนะนำด้านล่าง แล้วติดตั้งแอปพลิเคชันอีกครั้ง

Windows

  • จากแผงควบคุม ให้คลิกที่ โปรแกรมและคุณลักษณะ จากนั้นถอนการติดตั้ง PS Remote Play

Mac

  • ลาก PS Remote Play จากโฟลเดอร์ Applications ไปยังถังขยะ จากนั้นไปที่ Finder > ล้างถังขยะ

Android/iOS

  • กดค้างที่แอป Remote Play จากนั้นเลือก ถอนการติดตั้ง
กลับไปที่หมวดหมู่
การแบ่งปันและการออกอากาศ
ย้อนกลับ

การแบ่งปันและการออกอากาศ

การถ่ายภาพหน้าจอและคลิปวิดีโอ

  1. กดปุ่มครีเอทบนคอนโทรลเลอร์เพื่อเปิดเมนูครีเอท
  2. เลือกหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้เพื่อจับภาพหรือแบ่งปันการเล่นเกมของคุณ

ก ) สร้างเมื่อเร็วๆ นี้
เลือกภาพขนาดย่อเพื่อเปิดการ์ดสิ่งที่สร้างล่าสุด คุณจะดูภาพหน้าจอและวิดีโอคลิปล่าสุดของคุณได้สูงสุด 15 รายการ

ข ) วิธีการจับภาพ
บันทึกการเล่นเกมล่าสุด ถ่ายภาพหน้าจอ เริ่มการบันทึกใหม่

ค ) ออกอากาศ
ข้ามไปยังการออกอากาศโดยตรงจากเมนูครีเอท

ง ) แบ่งปันหน้าจอ
สตรีมการเล่นเกมของคุณให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ 

จ ) ตัวเลือกการจับภาพ
เปลี่ยนรูปแบบและความละเอียดของภาพหน้าจอหรือวิดีโอคลิปของคุณ คุณจะเพิ่มเสียงไมค์และเสียงจากการแชทผ่านเสียงลงไปได้ด้วยเช่นกัน หากคุณมีจอแสดงผลที่เข้ากันได้ คุณจะเปิดใช้งานการบันทึกแบบ 4K ได้อีกด้วย

คุณสามารถบันทึกภาพหน้าจอเกมเพลย์ของคุณด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้ 

  • กดปุ่ม SHARE บนคอนโทรลเลอร์ของคุณค้างไว้
  • กดปุ่ม SHARE จากนั้นกดปุ่มสามเหลี่ยม
  • กดปุ่ม SHARE จากนั้นเลือก บันทึกภาพหน้าจอ
  1. จากหน้าหลัก ให้เลือก การตั้งค่า ภาพที่จับและการออกอากาศ
  2. เลือก ภาพที่จับ แล้วเลือกหนึ่งในการตั้งค่าต่อไปนี้

ไปที่ การตั้งค่า > การแบ่งปันและการออกอากาศ และเลือกหนึ่งในการตั้งค่าต่อไปนี้

  1.  กดปุ่ม PS เพื่อไปที่ศูนย์ควบคุมและเลือกการ์ดสร้างเมื่อเร็วๆ นี้
  2.  เลือกคลิปวิดีโอหรือภาพหน้าจอ จากนั้นเลือก แบ่งปัน
  3.  เลือกปลายทางหรือผู้รับที่จะแบ่งปันด้วย
    คุณสามารถเขียนข้อความถึงผู้รับหรือเพิ่มภาพที่จับเพิ่มเติมได้ด้วยการเลือก ภาพหน้าจอและคลิปวิดีโอ
  4.  เลือก ส่ง
    การแจ้งเตือนจะบอกให้คุณทราบเมื่อมีการแบ่งปันภาพที่จับของคุณ
  1. เลือก แกลเลอรีภาพที่จับ จากส่วนเนื้อหาและเลือกภาพหน้าจอ
  2. กดปุ่ม SHARE ค้างไว้แล้วเลือกปลายทางการอัพโหลด
  3. เลือก กิจกรรม เพื่ออัพโหลดภาพหน้าจอไปยัง PSN และแบ่งปันเป็นกิจกรรม
  4. เพิ่มความคิดเห็น เลือกตัวเลือกอื่นๆ จากนั้นเลือก แบ่งปัน
  1. ไปยังหน้าหลักเกมและเลือก แกลเลอรีสื่อ เพื่อดูภาพที่จับไว้ทั้งหมด 
  2. เปิดภาพที่จับและเลือก แก้ไข
  1. เลือก แกลเลอรีภาพที่จับ จากส่วนเนื้อหาและเลือกภาพหน้าจอหรือคลิปวิดีโอ
  2. กดปุ่มตัวเลือกและเลือก แก้ไขใน SHAREfactory
  3. คุณยังสามารถเลือก ตัดแต่ง เพื่อทำให้คลิปวิดีโอของคุณสั้นลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะแบ่งปัน

แชร์เพลย์และการแบ่งปันหน้าจอ

หากต้องการเริ่มแชร์เพลย์ คุณต้องเป็นสมาชิก PlayStation Plus
  1. กดปุ่ม PS บนคอนโทรลเลอร์เพื่อเปิดศูนย์ควบคุมและเลือกการ์ดการแชทผ่านเสียงของปาร์ตี้
  2. เลือก เริ่ม แชร์เพลย์
  3. เชิญเพื่อน แล้วเลือก โหมดเล่น
    แชร์เพลย์จะเริ่มเมื่อมีผู้เล่นเข้าร่วมและกลายเป็นผู้เข้าร่วมของคุณ
  • คุณจะใช้แชร์เพลย์กับผู้เข้าร่วมได้ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น
  • ถ้าคุณต้องการใช้แชร์เพลย์กับบัญชีผู้ใช้ชั่วคราว ให้ไปที่ การตั้งค่า > ครอบครัวและการควบคุมโดยผู้ปกครอง > ข้อจำกัดคอนโซล PS5 และเลือก การสร้างผู้ใช้และการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้ชั่วคราว > อนุญาต
  • เพื่อประสิทธิภาพดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อความเร็วสูงที่มีความเร็วอย่างน้อย 2 Mbps สำหรับทั้งคุณและผู้เข้าร่วม
  • หากผู้เล่นที่ได้รับเชิญไม่ได้เป็นสมาชิก PlayStation Plus จะไม่สามารถเลือกแชร์เพลย์กับผู้เข้าร่วมได้
  1. เข้าร่วมหรือเริ่มปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ที่คุณต้องการแบ่งปันหน้าจอด้วย
  2. ในการ์ดแชทผ่านเสียง เลือกไอคอนแบ่งปันหน้าจอแล้วเลือก เริ่มแบ่งปันหน้าจอ

หากผู้เล่นที่แบ่งปันหน้าจอเปิดปฏิสัมพันธ์ของผู้ดู คุณสามารถโต้ตอบกับหน้าจอของผู้เล่นและตอบสนองให้ผู้ที่รับชมอยู่มองเห็น

  1. หากต้องการเริ่มโต้ตอบ ให้ไปที่ศูนย์ควบคุมและเลือกการ์ดแบ่งปันหน้าจอ
  2. เลือกเครื่องเล่นวิดีโอ
    เกมเพลย์ของผู้เล่นจะแสดงแบบเต็มหน้าจอ 

จากนั้นคุณสามารถโต้ตอบกับหน้าจอของผู้เล่นโดยการ:

  • ขยับพอยน์เตอร์
    ใช้จอยสติ๊กอนาล็อกซ้ายเพื่อขยับพอยน์เตอร์บนหน้าจอ หากต้องการชี้จุดใดจุดหนึ่งบนหน้าจอ ให้กดปุ่มกากบาท หากต้องการเขียนบนหน้าจอ ให้กดปุ่มกากบาทค้างแล้วขยับพอยน์เตอร์
  • ส่งการตอบสนอง
    กดปุ่ม R2 ค้างแล้วกดปุ่มแอ็กชัน ซึ่งแต่ละปุ่มจะสัมพันธ์กับการตอบสนองอย่างหนึ่ง ปล่อยปุ่ม R2 เพื่อส่งการตอบสนอง คุณสามารถส่งการตอบสนองขนาดใหญ่ขึ้นโดยการกดปุ่มแอ็กชันหลายๆ ครั้งก่อนปล่อยปุ่ม R2

แก้ไขปัญหาการออกอากาศและการแบ่งปัน

สตรีม Twitch จะค้างอยู่ที่ “กำลังเตรียม” เมื่อออกอากาศจากคอนโซล PS4

ในปัจจุบัน Twitch ต้องใช้ 2FA (การพิสูจน์ตัวตนสองขั้นตอน) คุณจำเป็นต้องเปิดใช้งาน 2FA บนบัญชี Twitch หากต้องการออกอากาศจาก PS4 ของคุณ สำหรับคำแนะนำฉบับเต็ม โปรดไปที่คู่มือ การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) ของ Twitch  เมื่อเปิดใช้งาน 2FA และตั้งค่าแล้ว คุณจะสามารถเข้าสู่ระบบ Twitch จากคอนโซล PS4 ของคุณและเริ่มสตรีมได้เลย

เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานแชร์เพลย์ ทั้งเจ้าของห้องและผู้เข้าร่วมจะต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โปรดยึดตามข้อมูลนี้ หากคุณพบปัญหาการเชื่อมต่อหรือความเสถียรในการใช้งานแชร์เพลย์

  • โดยทั่วไป การเชื่อมต่อควรมีความเร็ว 2 Mbps ทั้งอัพสตรีมและดาวน์สตรีม
  • คุณสามารถดูความเร็วของการเชื่อมต่อโดยประมาณได้ใน การตั้งค่า > เครือข่าย > ทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • แนะนำให้ใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สายสำหรับคอนโซล PS4
  • หากคุณใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi (ไร้สาย) โปรดวางคอนโซล PS4 ให้ใกล้กับแอ็กเซสพอยต์หรือเราเตอร์กว่าเดิม และตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งใดกีดขวางระหว่างกลาง
  • ห้ามใช้แชร์เพลย์ขณะที่อุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้งานเครือข่ายเดียวกันอยู่ในระหว่างการใช้แบนด์วิดธ์จำนวนมาก