คอนโทรลเลอร์

การอัพเดทซอฟต์แวร์อุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense จะเพิ่มมาเมื่อคุณอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบของคอนโซล PS5 ของคุณ จับคู่คอนโทรลเลอร์ของคุณและทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อทำการอัพเดท

วิธีเริ่มการอัพเดทด้วยตนเองมีดังนี้

1. ไปที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์เสริม > คอนโทรลเลอร์ (ทั่วไป)
2. เลือก ซอฟต์แวร์อุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense

คุณสามารถใช้ PC ในการอัพเดทซอฟต์แวร์คอนโทรลเลอร์ DualSense ของคุณได้ ดาวน์โหลด PlayStation®Accessories เพื่ออัพเดทคอนโทรลเลอร์ของคุณ

1. ปิดคอนโซล PlayStation®5 ของคุณ
2. มองหาปุ่มรีเซ็ตขนาดเล็กที่อยู่ด้านหลังของคอนโทรลเลอร์ ใช้เข็มหรืออุปกรณ์ที่ใกล้เคียง (ไม่ได้ให้มา) ในการกดปุ่มรีเซ็ต
3. นี่จะไม่กำหนดการตั้งค่าคอนโทรลเลอร์ใหม่ หรือส่งผลต่อการตั้งค่าการจับคู่
4. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์กับคอนโซล PS5® ของคุณโดยใช้สาย USB ที่มาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์ของคุณและกดปุ่ม PS

เลขหมายประจำเครื่องอยู่ที่ด้านหลังของคอนโทรลเลอร์ไร้สายใต้รหัส QR

• เลขหมายประจำเครื่องมีอักขระที่เป็นตัวอักษรและตัวเลขคละกัน 17 ตัว

หากคุณทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้วแต่ยังสงสัยว่าคอนโทรลเลอร์น่าจะมีข้อบกพร่องในการเชื่อมต่อ โปรดไปที่เครื่องมือวินิจฉัยซ่อมแซม PlayStation

คุณจะต้องจับคู่คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edge™ กับคอนโซลของคุณในครั้งแรกที่ใช้งาน

1. เปิดคอนโซล PlayStation®5 ของคุณ
2. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์กับคอนโซลของคุณโดยใช้สาย USB ที่มีมาด้วย
3. กดปุ่ม PS
   คอนโทรลเลอร์จะเปิด หลังจากแถบแสงกะพริบแล้ว ไฟแสดงสถานะผู้เล่นจะติดสว่างขึ้น

• เมื่อคอนโทรลเลอร์มีพลังงานแบตเตอรี่เพียงพอแล้ว คุณจะสามารถถอดสาย USB และใช้งานคอนโทรลเลอร์แบบไร้สายได้  

• โปรดทราบว่าคอนโทรลเลอร์สามารถจับคู่กับคอนโซล PS5® ได้คราวละหนึ่งเครื่องเท่านั้น หากต้องการใช้คอนโทรลเลอร์กับคอนโซลเครื่องอื่น คุณจะต้องจับคู่คอนโทรลเลอร์กับคอนโซลเครื่องนั้น  
• คุณสามารถใช้คอนโทรลเลอร์ได้พร้อมกันสูงสุด 4 อัน เมื่อคุณกดปุ่ม PS ระบบจะกำหนดสีให้กับผู้เล่นแต่ละคน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูคำแนะนำด้านล่าง 

อุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการที่ระบุด้านล่างหรือที่ใหม่กว่าจะรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และการเชื่อมต่อ USB ของคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edge เมื่อเชื่อมต่อแล้ว คุณสามารถใช้คอนโทรลเลอร์ไร้สายกับเกมและแอปพลิเคชันที่เข้ากันได้

คุณสมบัติบางอย่างของคอนโทรลเลอร์อาจไม่สามารถใช้งานได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์

• คุณสมบัติทริกเกอร์แบบปรับเปลี่ยนได้สามารถใช้งานได้เมื่อเกมรองรับ คุณสมบัตินี้เข้ากันไม่ได้กับอุปกรณ์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 
• คุณสมบัติการตอบสนองการสัมผัสสามารถใช้งานได้เมื่อเกมรองรับและอาจต้องใช้การเชื่อมต่อ USB บน PC คุณสมบัตินี้เข้ากันไม่ได้กับคอมพิวเตอร์ Mac และอุปกรณ์มือถือ 
• ไมโครโฟนและลำโพงในตัวสามารถใช้งานได้บน Windows PC เมื่อเกมรองรับ ไมโครโฟนและลำโพงในตัวเข้ากันไม่ได้กับ Mac และอุปกรณ์มือถือ 
• คุณสมบัติช่องต่อชุดหูฟังต้องใช้การเชื่อมต่อแบบใช้สายกับ PC และ Mac คุณสมบัตินี้เข้ากันไม่ได้กับอุปกรณ์มือถือ

หากต้องการจับคู่คอนโทรลเลอร์ไร้สายกับอุปกรณ์ที่รองรับโดยใช้ Bluetooth เป็นครั้งแรก ให้เปิดโหมดการจับคู่:

1. ตรวจสอบว่าไฟแสดงสถานะผู้เล่นบนคอนโทรลเลอร์ปิดอยู่
   หากไฟแสดงสถานะผู้เล่นเปิดอยู่ ให้กดปุ่ม PS ค้างไว้จนกว่าไฟจะดับลง หากเชื่อมต่อสาย USB กับคอนโทรลเลอร์อยู่ ให้ถอดสายออก 
2. ในขณะที่กดปุ่มครีเอทค้างไว้ ให้กดปุ่ม PS ค้างไว้จนกว่าแถบแสงจะกะพริบ 
3. เปิดใช้งาน Bluetooth บนอุปกรณ์ของคุณแล้วเลือกคอนโทรลเลอร์จากรายการอุปกรณ์ Bluetooth
   เมื่อการจับคู่เสร็จสมบูรณ์ แถบแสงจะกะพริบ แล้วไฟแสดงสถานะผู้เล่นจะสว่างขึ้น

สามารถจับคู่คอนโทรลเลอร์ของคุณกับอุปกรณ์ได้ครั้งละหนึ่งอุปกรณ์เท่านั้น ทุกครั้งที่คุณเปลี่ยนอุปกรณ์ คุณจะต้องจับคู่คอนโทรลเลอร์กับอุปกรณ์ใหม่

เมื่อมี PlayStation Accessories คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ เช่น อัพเดทเฟิร์มแวร์คอนโทรลเลอร์และปรับแต่งการตั้งค่าคอนโทรลเลอร์จาก Windows PC ของคุณได้

เมื่อมี PlayStation Accessories คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ เช่น อัพเดทเฟิร์มแวร์คอนโทรลเลอร์และปรับแต่งการตั้งค่าคอนโทรลเลอร์จาก Windows PC ของคุณได้

การอัพเดทซอฟต์แวร์ของคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edge จะเพิ่มมาเมื่อคุณอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบคอนโซล PS5 ของคุณ

หากต้องการตรวจสอบการอัพเดทซอฟต์แวร์ของคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edge:

1. ไปที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์เสริม > คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edge
2. เลือก ซอฟต์แวร์อุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edgeเพื่ออัพเดทซอฟต์แวร์อุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ไร้สาย

คุณยังสามารถอัพเดทซอฟต์แวร์อุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense Edge ได้โดยใช้ PC โปรดไปที่คำแนะนำด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หากต้องการจับคู่คอนโทรลเลอร์ไร้สายกับอุปกรณ์ที่รองรับโดยใช้ Bluetooth เป็นครั้งแรก ให้เปิดโหมดการจับคู่

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟแสดงสถานะผู้เล่นบนคอนโทรลเลอร์ปิดอยู่ หากไฟแสดงสถานะผู้เล่นเปิดอยู่ ให้กดปุ่ม PS ค้างไว้จนกว่าไฟจะดับลง หากเชื่อมต่อ USB เข้ากับคอนโทรลเลอร์ ให้เลิกเชื่อมต่อ 
2. ในขณะที่กดปุ่ม SHARE ค้างไว้ ให้กดปุ่ม PS ค้างไว้จนกว่าแถบไฟจะกะพริบ
3. เปิดใช้งาน Bluetooth บนอุปกรณ์ของคุณแล้วเลือกคอนโทรลเลอร์จากรายการอุปกรณ์ Bluetooth เมื่อการจับคู่เสร็จสมบูรณ์แถบไฟจะกะพริบแล้วตัวแสดงสถานะผู้เล่นจะสว่างขึ้น

คุณจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 จาก PC หรือ Mac ของคุณ

1. เปิดคอนโซลของคุณหรือตั้งค่าให้อยู่ในโหมดพัก 
2. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์กับ PC หรือ Mac ของคุณ 
3. เปิดแอป PS Remote Play บน PC หรือ Mac ของคุณ จากนั้นเลือก ลงชื่อเข้าใช้ PSN
   ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีเดียวกับที่คุณใช้สำหรับคอนโซลของคุณ 
4. เมื่อคุณเลือก การตั้งค่า คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าคุณภาพวิดีโอสำหรับการเล่นระยะไกล เช่น ความละเอียดและอัตราเฟรม 
5. เลือก PS5 หรือ PS4
   แอปจะค้นหาคอนโซล PS5 หรือ PS4 ที่คุณลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ใช้ของคุณแล้วเชื่อมต่อกับคอนโซลโดยอัตโนมัติ หลังจากที่แอปเชื่อมต่อแล้ว หน้าจอของคอนโซลจะแสดงบน PC หรือ Mac ของคุณ และคุณจะสามารถเริ่มใช้การเล่นระยะไกลได้ หากพบหลายคอนโซลให้เลือกคอนโซลที่คุณต้องการใช้ 

ตั้งแต่ครั้งที่สองเป็นต้นไปคุณจะสามารถเลือกคอนโซลที่คุณเชื่อมต่อก่อนหน้านี้ได้ 

หากคอนโซลของคุณไม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยอัตโนมัติคุณจะถูกขอให้ ลงทะเบียนคอนโซลบน PC หรือ Mac ของคุณด้วยตนเอง

1. ปิดและถอดสายคอนโซล PS4 ของคุณ 
2. มองหาปุ่มรีเซ็ตขนาดเล็กที่อยู่ด้านหลังของคอนโทรลเลอร์ใกล้ปุ่ม L2
3. ใช้เครื่องมือเล็กๆ เพื่อกดปุ่มภายในรูขนาดเล็ก กดปุ่มค้างไว้ประมาณ 3-5 วินาที
4. เสียบสายคอนโซล เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์ของคุณโดยใช้สาย USB และกดปุ่ม PS หากแถบแสงเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แสดงว่าคอนโทรลเลอร์จับคู่แล้ว

หากคุณทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้วแต่ยังสงสัยว่าคอนโทรลเลอร์น่าจะมีข้อบกพร่องในการเชื่อมต่อ โปรดไปที่เครื่องมือวินิจฉัยซ่อมแซม PlayStation

คุณจะต้องจับคู่คอนโทรลเลอร์ Access™ กับคอนโซล PS5® ของคุณในครั้งแรกที่ใช้งาน คุณยังควรตั้งค่าคอนโซลของคุณและจับคู่กับคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ ด้วย

1. อย่าลืมตรวจสอบว่าคอนโซล PS5 เปิดอยู่
2. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์เข้ากับคอนโซลของคุณโดยใช้สาย USB ที่ให้มาด้วย
   การจับคู่เสร็จสมบูรณ์และคุณสามารถถอดสาย USB ได้หากต้องการใช้คอนโทรลเลอร์แบบไร้สาย
3. กดปุ่ม PS บนฐานจอยสติ๊ก
4. เลือกผู้ใช้
   หลังจากแถบแสงกะพริบแล้ว ไฟแสดงสถานะผู้เล่นและไฟแสดงสถานะคอนโทรลเลอร์จะสว่างขึ้น
5. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าคอนโทรลเลอร์ของคุณ ใช้โพรไฟล์พื้นฐานเพื่อนำทางไปตามการตั้งค่า

หากคุณต้องการใช้คอนโทรลเลอร์ Access ตัวใหม่สองตัวเป็นครั้งแรก คุณจำเป็นต้องจับคู่ทั้งสองคอนโทรลเลอร์กับคอนโซล PS5 ของคุณ คุณยังควรตั้งค่าคอนโซลของคุณและจับคู่กับคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense™ ด้วย 

1. ตรวจสอบว่าคอนโซลของคุณเปิดอยู่ 
   
2. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์ตัวหนึ่งเข้ากับคอนโซลของคุณด้วยสาย USB ที่ให้มาด้วย ทำซ้ำกับคอนโทรลเลอร์ตัวที่สอง
   การจับคู่เสร็จสมบูรณ์และคุณสามารถถอดสาย USB ได้หากต้องการใช้คอนโทรลเลอร์แบบไร้สาย
3. กดปุ่ม PS บนฐานจอยสติ๊กของคอนโทรลเลอร์ตัวแรก 
4. เลือกผู้ใช้
   หลังจากแถบแสงกะพริบแล้ว ไฟแสดงสถานะผู้เล่นและไฟแสดงสถานะคอนโทรลเลอร์จะสว่างขึ้น
5. กดปุ่ม PS บนฐานจอยสติ๊กของคอนโทรลเลอร์ตัวที่สอง
   
6. เลือกผู้ใช้เดียวกับคอนโทรลเลอร์ตัวแรก
   หลังจากแถบแสงกะพริบแล้ว ไฟแสดงสถานะผู้เล่นจะสว่างเหมือนกับคอนโทรลเลอร์ตัวแรก และไฟแสดงสถานะของคอนโทรลเลอร์ทั้งสองตัวจะสว่างขึ้น
7. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าคอนโทรลเลอร์ของคุณ ใช้โพรไฟล์พื้นฐานเพื่อนำทางไปตามการตั้งค่า 
   

เปลี่ยนหัวปุ่มเป็นหัวปุ่มประเภทต่างๆ ที่มีมาให้เพื่อดูว่าปุ่มแบบใดเข้ากับสไตล์การเล่นของคุณมากที่สุด คุณอาจต้องปิดคอนโทรลเลอร์ Access ของคุณขณะเปลี่ยนหัวปุ่มเพื่อหลีกเลี่ยงการกดปุ่มโดยไม่ตั้งใจระหว่างการเล่นเกม

คุณสามารถติดตั้งคอนโทรลเลอร์ Access™ กับขาตั้งหรือฐานรูปแบบ AMPS ได้โดยใช้รูสกรูที่ด้านล่างของคอนโทรลเลอร์ 

ดูข้อมูลจำเพาะของพอร์ตส่วนขยายและข้อมูลการพิมพ์ 3 มิติ สำหรับคอนโทรลเลอร์ Access™ ของคุณสำหรับคอนโซล PlayStation®5

ปุ่ม สวิตช์ และอุปกรณ์ของผู้ผลิตรายอื่นที่เข้ากันได้กับพอร์ต 3.5 มม. สามารถเสียบเข้ากับพอร์ตส่วนขยายของคอนโทรลเลอร์เพื่อเพิ่มตัวเลือกการกำหนดปุ่มได้ จากด้านซ้าย พอร์ตจะอยู่ตามลำดับต่อไปนี้: E1, E2, พอร์ต USB, E3, และ E4

สร้างและบันทึกโพรไฟล์แบบกำหนดเองได้สูงสุด 30 โพรไฟล์สำหรับคอนโทรลเลอร์ Access ของคุณ

1. จากหน้าจอหลัก ให้ไปที่ การตั้งค่า > อุปกรณ์เสริม 
2. เลือก คอนโทรลเลอร์ Access > ห้องสมุดโพรไฟล์
3. เลือก สร้างโพรไฟล์
4. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อกำหนดค่า ทิศทางของคอนโทรลเลอร์ และ การกำหนดปุ่ม
5. เลือกช่องหนึ่งจากสามช่อง แล้วเลือก กำหนด
   หากคุณเลือก กำหนด โดยไม่ได้เลือกช่อง การตั้งค่าของคุณจะบันทึกอยู่บนคอนโซล PlayStation®5 โดยไม่มีการกำหนดให้ช่องในคอนโทรลเลอร์ของคุณ

1. จาก ห้องสมุดโพรไฟล์ ให้เลือกโพรไฟล์
   
2. เลือก แก้ไข > การกำหนดปุ่ม 
   
3. เลือกปุ่มที่คุณต้องการแก้ไข แล้วเลือก กำหนดปุ่ม
   
4. เลือกฟังก์ชันที่คุณต้องการกำหนดให้ปุ่ม
   คุณยังสามารถเลือก ไม่ได้กำหนด เพื่อตั้งค่าปุ่มให้เป็นค่าว่าง (ไม่มีฟังก์ชัน)
5. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อ ปรับแต่งการกดปุ่ม
   
6. ทำขั้นตอนที่ 3 - 5 ซ้ำจนกระทั่งคุณแก้ไขปุ่มทั้งหมดที่ต้องการ 
   
7. เมื่อคุณแก้ไขการกำหนดปุ่มเสร็จแล้ว ให้เลือก เสร็จสิ้น 
   
8. บันทึกการแก้ไขของคุณโดยการกำหนดโพรไฟล์ให้กับช่องบนคอนโทรลเลอร์ของคุณ 

หากคุณประสบปัญหากับคอนโทรลเลอร์ของคุณ ให้ลองใช้ปุ่มรีเซ็ต วิธีการรีเซ็ตนี้ไม่ส่งผลต่อการจับคู่ โพรไฟล์ หรือการตั้งค่าอื่นๆ ของคอนโทรลเลอร์

1. ปิดคอนโซล PlayStation®5 ของคุณ
   ไปที่ศูนย์ควบคุมและเลือก โหมดพลังงาน > ปิด PS5
   คุณยังสามารถกดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้จนกว่าจะได้ยินเสียงบี๊พจากคอนโซลของคุณ
2. กลับด้านคอนโทรลเลอร์ของคุณและมองหาปุ่มรีเซ็ต
3. ใช้เข็มเล็กๆ หรือวัตถุที่ใกล้เคียง (ไม่ได้ให้มา) เพื่อกดปุ่มรีเซ็ตเข้าไปอย่างน้อยหนึ่งวินาที
4. เชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์เข้ากับคอนโซล PS5® ของคุณโดยใช้สาย USB ที่ให้มาด้วย แล้วกดปุ่ม PS

เลขหมายประจำเครื่องจะอยู่ที่ด้านหลังของคอนโทรลเลอร์ไร้สายเหนือรหัส QR

ตรวจสอบว่าคุณอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบคอนโซล PS5® และซอฟต์แวร์อุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ Access ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเท่าที่มี 

หากคุณได้ลองรีเซ็ตคอนโทรลเลอร์ของคุณแล้วและยังพบปัญหาอยู่ ให้ขอความช่วยเหลือด้วยเครื่องมือแก้ไขปัญหาของเรา